ในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) LINE ประเทศไทยได้ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด “LINE Premium” ซึ่งเป็นบริการสมาชิกรายเดือนที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการประสบการณ์การใช้ LINE ที่เหนือกว่าเดิม โดยเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การจัดการข้อมูล และการปรับแต่งประสบการณ์ใช้งานให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
รายละเอียดของ LINE Premium:
- ฟีเจอร์หลัก:
- Multiple Profiles:
- ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์ได้สูงสุด 3 โปรไฟล์ เพื่อแยกการใช้งานส่วนตัวและเรื่องงานได้อย่างชัดเจน
- พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่:
- เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น 100GB สำหรับจัดเก็บข้อความ รูปภาพ และไฟล์ต่างๆ
- การปรับแต่ง:
- สามารถปรับแต่งแอปพลิเคชัน LINE ได้หลากหลาย เช่น เปลี่ยนไอคอนและฟอนต์
- สิทธิพิเศษเพิ่มเติม:
- รับคูปองส่วนลดจาก LINE SHOPPING และสิทธิพิเศษจาก LINE MAN VIP
- การเข้าถึงสติกเกอร์, อีโมจิ, ธีม ที่ร่วมรายการได้อย่างไม่จำกัด
- Multiple Profiles:
- ค่าบริการ:
- 169 บาทต่อเดือน
- กำหนดการเปิดตัว:
- ไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2568
เป้าหมายของ LINE Premium:
- ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการแยกชีวิตส่วนตัวและการทำงานออกจากกัน
- เพิ่มความสะดวกในการจัดการข้อมูลและการสื่อสาร
- มอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นส่วนตัวและตรงกับความต้องการของผู้ใช้
- ส่งเสริมการใช้งาน LINE ให้เป็น Life Platform ที่ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิต
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- LINE Premium เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจใหม่ของ LINE ประเทศไทยที่ต้องการสร้าง “Life Platform” ที่มอบประสบการณ์ “WOW” ให้กับผู้ใช้
- บริการนี้มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานและวัฒนธรรมของคนไทย
LINE Premium มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้งาน LINE ในประเทศไทย โดยนำเสนอชุดฟีเจอร์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลเป็นอย่างมากและ LINE ยืนยันว่า ผู้ใช้งาน LINE ยังคงสามารถใช้งานฟรีเช่นเดิมได้ต่อไป แต่สาเหตุที่ทำให้ LINE ตัดสินใจเปิดตัว LINE Premium ก็เป็นเพราะคนไทยใช้ LINE ในทุกๆ กิจกรรมและมีความต้องการเซอร์วิสเพิ่มเติมจากฟีเจอร์พื้นฐานของ LINE ที่มีอยู่แล้ว
โดย ประเทศไทย เป็นประเทศที่ 2 ต่อจาก ญี่ปุ่น ที่มีการเปิดตัวระบบสมาชิก LINE Premium นี้ ในญี่ปุ่น ฟีเจอร์ Multiple Profiles ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในไทยคาดว่าจะได้รับความนิยมเช่นกัน รวมถึงฟีเจอร์แบ็คอัปด้วย เพราะคนไทยยังคงใช้ LINE ในการทำงานจำนวนมาก